A : จะแตกต่างกันเรื่องระยะเวลาในการส่งเคลมค่ะ

เนื่องจากการส่งซ่อมที่ร้าน BaNANA หลังจากที่ทางร้านได้รับสินค้าซ่อมจากลูกค้าแล้ว ร้านค้าจะต้องส่งสินค้าดังกล่าวมายังสำนักงานใหญ่ เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์บริการ

ซึ่งหากรวมระยะเวลาการส่งสินค้ารวมทั้งขาไปและขากลับ จะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์

แต่หากลูกค้าส่งเคลมโดยตรงกับทางศูนย์บริการของทางแบรนด์ จะใช้ระยะเวลาสั้นลง เหลือเพียงประมาณ 7-14 วันค่ะ

ลูกค้าสามารถตรวจสอบศูนย์บริการตามแบรนด์สินค้าได้จากลิงค์นี้ค่ะ

https://instore.bnn.in.th/servicecom7/servicelocations/

A :

– ส่งเคลมผ่านร้าน BaNANA ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
– ส่งเคลมตรงที่ศูนย์บริการ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ (บางศูนย์บริการอาจรอรับสินค้าได้เลย)

A : มีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายได้ค่ะ ไม่ว่าอาการเสียของสินค้าตอนส่งซ่อมจะเป็นอาการใด แต่หากทางศูนย์บริการวิเคราะห์ว่า HDD หรือ อุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลมีอาการเสียร่วมด้วย ทางศูนย์จะเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ ซึ่งในขั้นตอนการเปลี่ยนนั้นทางศูนย์จะไม่ได้ Back Up ข้อมูลให้ค่ะ จึงแนะนำให้ลูกค้าทำการ Back Up ข้อมูลสำคัญ ก่อนส่งเคลมเครื่องทุกครั้งค่ะ (ทางศูนย์และร้านค้าไม่สามารถรับผิดชอบกรณีข้อมูลสูญหายได้ค่ะ)

A : เอกสารที่ต้องใช้ในการส่งเคลมประกันภัย มีดังนี้ค่ะ

– ใบเสร็จ
– สำเนาบัตรประชาชน (ชื่อต้องตรงกับใบเสร็จ)
– ใบมอบอำนาจ กรณีผู้มาติดต่อส่งซ่อมชื่อไม่ตรงกับใบเสร็จ
– กรอกเอกสารขอคลมประกันภัย (ขอเอกสารได้ที่หน้าร้าน)
– วันที่เกิดเหตุความเสียหาย กับวันที่ลูกค้าติดต่อขอเคลมประกันภัย ต้องไม่เกิน 7 วัน

A : การส่งเคลมประกันภัย จะมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นจากการส่งเคลมสินค้าปกติทั่วไป คือทางบริษัทประกันภัยต้องตรวจสอบสภาพสินค้า และเอกสารว่าตรงตามเงื่อนไขของทางบริษัทประกันภัยหรือไม่ และเมื่อบริษัทประกันภัยพิจารณาผ่านแล้ว ถึงจะสามารถดำเนินการซ่อมสินค้าได้ตามขั้นตอนต่อไป รวมระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 20-45 วันค่ะ

A : สามารถตรวจสอบวันหมดประกันได้จากเวปลิงค์ http://memberservice.webhop.biz/CheckWarranty ทั้งนี้จะยกเว้นสินค้าที่ซื้อไปในลักษณะ Clearance Sale ที่ไม่สามารถอ้างอิงวันหมดประกันตามเวปไซด์ได้

A : ในการส่งเคลมสินค้าเข้าศูนย์บริการ ทางศูนย์ต้องการยืนยันวันที่ลูกค้าซื้อสินค้าโดยจะอ้างอิงจากวันที่บนใบเสร็จเป็นหลักเพื่อใช้คำนวนวันหมดประกันของสินค้า แต่หากลูกค้าไม่มีใบเสร็จแนบทางศูนย์จะนับวันหมดประกันจาก Lot Number ที่ผลิตสินค้าซึ่งอาจทำให้ลูกค้าได้รับประกันไม่เต็ม

A : สินค้าบางชนิดจะไม่มี Serial No. ที่ตัวสินค้า ทางผู้ผลิตจึงกำหนดให้ใช้กล่องของตัวผลิตภัณฑ์เพื่อใช้อ้างอิงและตรวจสอบวันหมดประกัน

A : สามารถตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าแยกตามรายผลิตภัณฑ์

ได้จากเวปนี้ https://instore.bnn.in.th/servicecom7/warrantybyproductcat/

A : สามารถตรวจสอบศูนย์บริการของแบรนด์ต่างๆได้ตามเวปลิงค์ https://instore.bnn.in.th/servicecom7/servicelocations/ ค่ะ

A : เฉพาะ Macbook, iMac, iPad สามารถซื้อประกัน Apple Care เพิ่มได้ค่ะ แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ แนะนำให้ติดต่อซื้อก่อนวันหมดประกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ค่ะ

A : เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่ทาง Apple กำหนดค่ะ ซึ่งตัวแทนจำหน่ายทุกที่จะได้รับเงื่อนไขเดียวกัน ดังนั้นในการขายสินค้า เราจึงมีขั้นตอนให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสภาพเครื่องทุกครั้งเพื่อความมั่นใจก่อนออกจากร้านค่ะ

A : iPhone ถูกผลิตให้รับสัญญาณแยกเป็น Model ให้ตรงกับประเทศที่จำหน่าย

จึงมีข้อจำกัดว่าเครื่องต่างประเทศที่มีสัญญาณต่างกัน อาจไม่สามารถให้บริการข้าม Model กันได้

แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลองนำเครื่องให้ทาง iCare เช็คอีกครั้ง ว่าสามารถให้บริการได้หรือไม่ค่ะ

A : ใช่ค่ะ สามารถส่งเคลมที่ไหนก็ได้ค่ะ ยกเว้น ประกันที่ซื้อต่อเพิ่ม ในส่วนของ Apple Care Protection Plan+ (Plus ที่มีรับประกัน อุบัติเหตุเสียหาย 1 ครั้ง เช่น กรณี ตกหล่นแตก สามารถให้ความคุ้มครองกรณีนี้ได้ เฉพาะประเทศที่มีจำหน่ายเท่านั้น)

A : รับประกัน 1 ปี ค่ะ ในการส่งเคลมแนะนำให้นำใบเสร็จไปด้วยนะคะ

A : สามารถตรวจสอบศูนย์บริการ iCare ทั่วประเทศได้ตามเวปลิงค์ สาขา iCare คลิก

A : สามารถเช็คข้อมูลได้ที่ฝ่ายสนับสนุนของ Apple ตามเวปลิงค์ https://support.apple.com/th-th ค่ะ

เพียงลูกค้าคีย์คำถามที่ต้องการทราบในช่อง “ค้นหาบริการช่วยเหลือ” ก็จะมีคำตอบให้แบบ Step by Step ค่ะ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดการแจ้งซ่อมสินค้าได้ที่ LINE@

 ข้อมูลการแจ้งซ่อมสินค้าด้านอื่นๆ