Why iPhone? พาดูความเก่งที่ทำให้ใครๆ ก็หลงรัก iPhone

มีหลายเหตุผลที่ทำให้หลายคนรู้สึกอุ่นใจและแฮปปี้ที่เลือกใช้ iPhone ด้วยการออกแบบที่ประณีตและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ชิปที่ทรงพลัง กล้องล้ำๆ ความง่ายในการใช้งาน แอปนับล้านๆ ที่ครอบคลุมทุกกิจกรรม ความต่อเนื่องที่ทำให้เราทำทุกอย่างได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่หายห่วง รวมไปถึงความช่วยเหลือที่พร้อมให้บริการ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึก ตามไปดูกันทีละข้อว่าเป็นยังไง

ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็.. ตามเรามาดู สารพัดเหตุผล iPhone ‘เก่ง’ ยังไง ทำไมใครๆ ก็หลงรัก? กันเลย

 

ง่ายดายตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดเครื่อง

สำหรับเหตุผลแรกก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความ ‘ง่าย’ ในการใช้งาน ก็แหม่ ถ้าใช้ยาก ต้องเสียเวลาเรียนรู้นาน ก็คงเป็นอะไรที่ต้องคิดหนักกันหน่อย และความง่ายของการใช้ iPhone ที่เราพูดถึงนั้นเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเครื่องเลยล่ะ

เพราะการเปลี่ยนมือถือใหม่ในแต่ละครั้งเรามักจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ยุ่งยากเสมอ ไม่ว่าจะข้อมูลสำคัญเก่าๆ ทั้งรายชื่อ ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เมล และปฏิทินนัดหมายต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่องเดิมจะทำยังไงดี หากจะให้พกสองเครื่องใช้งานไปพร้อมกันก็ดูเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เวิร์คเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นการย้ายจาก Android มา iOS ก็ยิ่งเพิ่มความยุ่งยากหนักเข้าไปอีกไหม แต่ไม่เลย หากพร้อมที่จะย้ายไปใช้ iPhone แล้วล่ะก็ แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ย้ายไปยัง iOS” บนโทรศัพท์ Android ก็สามารถถ่ายโอนไฟล์ทั้งหลายเหล่านี้ได้เลยในแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นแถมปลอดภัยอีกด้วย พร้อมมีคำแนะนำทีละขั้นตอนในการเริ่มต้นใช้งานด้วย

ส่วนการย้ายจาก iPhone เครื่องเดิมไปเครื่องใหม่ก็ง่ายยิ่งกว่าง่าย เพียงเปิดอุปกรณ์เครื่องใหม่แล้ววางไว้ใกล้กับอุปกรณ์เครื่องปัจจุบัน จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ขึ้นมาก็จบ!

ที่สำคัญคือ iPhone ใหม่ทุกเครื่องยังมาพร้อมกับแอปต่างๆ ที่ติดตั้งไว้ให้พร้อม ให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรกเลย โดยแอปเหล่านี้สามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใดเลย ไม่ว่าจะเป็น iMovie แอปตัดต่อวิดีโอ ที่ให้เราครีเอทวิดีโอสุดประทับใจในคุณภาพระดับเดียวกับที่รับชมในโรงภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย

Keynote แอปเพื่อการสร้างงานนำเสนอที่สวยสะดุดตาและน่าจดจำ ด้วยเครื่องมืออันทรงพลังและเอฟเฟ็กต์สุดแพรวพราว พร้อมโหมดใช้งานร่วมกันแบบเรียลไทม์ที่จะทำให้ทีมของเราทำงานนำเสนอนี้ไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย

หรือจะเป็น Pages แอปสำหรับสร้างงานเอกสารที่ใช้งานง่าย พร้อมเครื่องมือที่ให้เราปรับแต่งงานเอกสารนี้ได้อย่างสวยงามไม่เหมือนใคร ก็ติดตั้งมาให้แบบพร้อมใช้งานในทันทีด้วยเช่นกัน

แต่หากเราต้องการใช้งานแอปอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากที่ติดตั้งมาไว้ให้ในเครื่องแล้วนั้น ยังสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ซึ่งเราจะมาเล่าให้ฟังในหัวข้อถัดๆ ไป

 

รูปลักษณ์สวยงามกับความทนทานเหนือชั้น ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน

ด้านรูปลักษณ์เองก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ iPhone นั้นโดดเด่นกว่าใคร มีขนาดที่พอดีต่อการพกพา เรียกได้ว่าแค่ถืออยู่ในมือก็รู้เลยแหละว่านี่น่ะ iPhone เอง แต่นอกจากความสวยงามแล้ว iPhone ยังถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจให้ใช้ได้ยาวนานทั้งภายในและภายนอก 

ตั้งแต่วัสดุตัวเครื่องที่มาพร้อมด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแรงกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟน ทนต่อทนน้ำ น้ำที่หกหรือกระเด็นใส่ และฝุ่นได้ดีเยี่ยมที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)

ใน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ยังมีดีไซน์พรีเมี่ยมด้วยขอบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม ทนต่อรอยขีดข่วนและการกัดกร่อน ส่วนด้านหลังเป็นกระจกผิวด้าน ขณะที่ iPhone 13 และ iPhone 13 mini มีดีไซน์ขอบแบบแบนที่ทนทาน โครงอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่เรียบหรูดูดี 

ขณะเดียวกันระบบปฏิบัติการของ iPhone อย่าง iOS ก็สามารถอัปเดตได้แบบอัตโนมัติโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด ได้ทั้งคุณสมบัติใหม่ๆ และการปรับปรุงด้านความปลอดภัย ทำให้ iPhone เครื่องนี้ของเราใหม่อยู่เสมอ 

ยกตัวอย่างเช่นใน iOS 15 ที่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ ได้ง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติ SharePlay ที่ให้เราดูคอนเทนต์ต่างๆ ไปพร้อมกันกับครอบครัวได้ แถมยังแชร์หน้าจอได้โดยตรงผ่าน FaceTime หรือจะฟังเพลย์ลิสต์โปรดกับแก๊งเพื่อน ที่ทุกคนสามารถเพิ่มเพลงในคิวเพลงและดูรายชื่อเพลงถัดไปได้เช่นกัน 

หรือใครที่ต้องการใช้สมาธิกับอะไรบางอย่าง อยากปลีกตัวออกจากความวุ่นวาย ก็มีคุณสมบัติ Focus ที่เพียงแค่เลือกรายการจากโหมดนี้ หรือสร้างรายการใหม่ ก็จะอนุญาตเฉพาะการแจ้งเตือนที่เราต้องการรับในขณะนั้นได้แล้ว และนี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่เราสามารถอัปเดตใหม่ได้ตลอดอีกเพียบ

 

เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้

จริงๆ แล้วเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือถือที่เราใช้เพื่อติดต่อสื่อสาร ทำงาน ทำธุรกรรมต่างๆ ที่ล้วนเต็มไปด้วยข้อมูลสำคัญย่อมหละหลวมไปไม่ได้เลย

และ iPhone ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเราตั้งแต่เริ่มแรก บวกกับการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า (Face ID) ที่ปลอดภัยที่สุดในสมาร์ทโฟน นอกจากจะใช้ในการปลดล็อก iPhone แล้ว ยังสามารถใช้เพื่อล็อกอินเข้าแอปธนาคาร โหลดแอป หรือเปิดเอกสารต่างๆ ได้อีก เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยที่มาพร้อมความใส่ใจเลยล่ะ

มากไปกว่านั้นยังมีคุณสมบัติ “การป้องกันการติดตามอัจฉริยะ” ใน Safari ที่จะเข้ามาช่วยหยุดผู้โฆษณาที่คอยติดตามคุณจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง 

ขณะที่การใช้งานแอปพลิเคชันที่เราอาจจะกังวลว่าจะมีการติดตามดึงข้อมูลไปใช้โดยที่เราไม่ได้รับรู้และให้ความยินยอมหรือเปล่า ซึ่งใน App Store จะแสดงให้เห็นเลยว่าจะมีการใช้ข้อมูลของคุณอย่างไร ผ่านป้ายแสดงรายละเอียดแนวทางด้านความเป็นส่วนตัว ช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าแอปนั้นๆ เหมาะกับเราหรือไม่

โดยเมื่อดาวน์โหลดมาใช้งานบน iPhone แล้ว แอปยังจำเป็นต้องขออนุญาตจากเราก่อนที่จะเข้าถึงสิ่งต่างๆ อย่างเช่น รูปภาพ หรือตำแหน่งที่ตั้งอีกด้วย และหากเกิดเปลี่ยนใจภายหลัง ก็ยังไปตั้งค่าการอนุญาตใหม่ได้ตลอดเวลาเลย 

ใน iOS 15 ยังมี App Privacy Report ที่จะแสดงภาพรวมว่าแต่ละแอปนั้นใช้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพ กล้อง ไมโครโฟน และรายชื่อตามที่เราได้ให้การอนุญาตไว้แล้วอย่างไรบ้างในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และมีการติดต่อโดเมนอื่นใดบ้าง

ทางด้านการติดต่อสื่อสาร iMessage และการโทร FaceTime แบบวิดีโอก็จะได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางด้วย จึงไม่สามารถถูกเปิดอ่านขณะกำลังรับส่งระหว่างอุปกรณ์ได้เลย

iMessage 

FaceTime

 

ประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยชิปที่ออกแบบโดย Apple

iPhone ใช้ชิปที่ออกแบบโดย Apple จึงมาพร้อมประสิทธิภาพที่แตกต่างอย่างเหนือชั้น แต่นอกจากชิปแล้วระบบปฏิบัติการอย่าง iOS ก็ยังออกแบบโดย Apple เช่นเดียวกัน ทุกอย่างจึงทำงานร่วมกันได้อย่างสอดคล้องและรีดประสิทธิภาพออกมาได้ในระดับสูงสุด

อย่างใน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นใช้ชิป A15 Bionic มี CPU แบบ 6‑core ใหม่ ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ช่วยรับมือกับงานที่ซับซ้อน เกมล้ำๆ ทั้งยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย

ขณะที่ GPU ของ iPhone 13 เป็นแบบ 4‑core ใหม่ ส่วน iPhone 13 Pro น่ะเหรอ ก็มีชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนยังไงล่ะ โดยมี GPU แบบ 5‑core ใหม่หมด ประสิทธิภาพด้านกราฟิกเร็วกว่าชิปสมาร์ทโฟนอื่นๆ สูงสุดถึง 50%

พร้อม Neural Engine ที่เร็วสุดแรง แบบ 16‑core ใหม่ ประมวลผลได้สูงสุด 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที ซึ่งจะเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนโหมดภาพยนตร์ และ HDR อัจฉริยะ

 

กล้องล้ำระดับโปร จากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สุดอัจฉริยะ

มาดูเรื่องกล้องกันบ้างดีกว่า ก็แหม่.. ทุกวันนี้แทบจะปฏิเสธกันไม่ได้แล้วนะ ว่าหนึ่งในฟีเจอร์ของมือถือที่เราใช้กันหนักมากก็คือเรื่องของกล้องเนี่ยแหละ!

iPhone มาพร้อมกับกล้องสุดล้ำที่ช่วยให้ภาพถ่ายและวิดีโอของเรานั้นสวยงามและน่าทึ่ง ด้วยการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ให้ล้ำไปอีกขั้น บวกกับซอฟต์แวร์สุดอัจฉริยะที่จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นในระบบกล้องระดับโปรของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro 

อย่างการถ่ายในสภาวะที่มีแสงน้อย ก็มี โหมดกลางคืน ที่จะช่วยให้ภาพถ่ายนั้นมีสีสันที่สมจริงและเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน หรือใครที่เป็นสายพอร์ตเทรตก็ยังมี โหมดภาพถ่ายบุคคล ที่จะช่วยให้แบบของเรานั้นคมชัด โดดเด่นตัดกับฉากหลังที่มีความเบลออย่างสวยงาม 

ยังมี HDR อัจฉริยะ 4 ที่สามารถแยกตัวบุคคลในภาพได้สูงสุด 4 คน และจะปรับคอนทราสต์ แสง รวมไปถึงโทนสีผิวของแต่ละคนโดยอัตโนมัติ ทุกคนจึงดูดีที่สุดในแบบของตัวเอง 

ขณะที่การถ่ายวิดีโอนั้นก็รองรับการถ่าย HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 60 fps พร้อมโหมดที่เราอยากแนะนำอย่าง โหมดภาพยนตร์ ความละเอียด 1080p ที่ 30 fps ที่จะช่วยเพิ่มเอฟเฟ็กต์ความชัดลึกให้กับวิดีโอแบบอัตโนมัติ เป็นเทคนิคที่เรียกว่าการโฟกัสแบบแร็ค ที่จะสลับจุดโฟกัสจากสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมนั่นเอง แต่วันนี้เราสามารถสนุกและเพิ่มสีสันให้กับวิดีโอของเราด้วยเทคนิคนี้ใน iPhone ได้แล้ว

นี่เป็นแค่ตัวอย่างความสามารถของกล้อง iPhone ที่เราหยิบมาเล่าให้ฟังเท่านั้น จริงๆ ยังมีอีกหลายโหมดสุดว้าวที่ตอบโจทย์ทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอ

 

กว่าล้านๆ แอปที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน

App Store เป็นที่ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการดาวน์โหลดแอปต่างๆ โดยมีมากกว่าล้านแอปบน App Store ที่พร้อมให้ใช้งานทั่วโลก ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย

ซึ่งแอปที่ต้องจ่ายค่าบริการนั้น จะมีการแสดงราคาอย่างชัดเจน พร้อมระบุสิ่งที่เราจะได้รับจากการซื้อ ซึ่งมีทั้งแบบซื้อขาดครั้งเดียวจบ และแบบที่สมัครใช้งานเป็นรายเดือนหรือรายปี ซึ่งแอปประเภทหลังนี้เราสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ตลอดเวลา รองรับการชำระเงินทั้งผ่านการเก็บค่าบริการโทรศัพท์มือถือ, eWallet รวมไปถึงบัตรเครดิตหรือเดบิต 

ที่สำคัญคือ Apple ยังมีการส่งใบเสร็จให้ทุกครั้งที่เรามีการซื้อภายในแอป โดยที่เราสามารถดูการซื้อเหล่านั้นและการสมัครสมาชิกต่างๆ ได้จากบัญชี เป็นเหตุผลที่ทำให้มั่นใจเลยว่าเราจะไม่โดนเรียกเก็บเงินแบบไม่ทันตั้งตัวแน่นอน มากไปกว่านั้นยังมีการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยที่มั่นใจได้ว่าจะมีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่จะเข้าใช้งานบัญชีได้ แม้ว่าจะมีคนอื่นรู้รหัสผ่านของเราก็ตาม 

และอย่างที่บอกว่าหมดกังวลเรื่องความไม่เป็นส่วนตัวไปได้เลย นอกจากสามารถตั้งค่าข้อมูลที่ต้องการแชร์ได้แล้ว แอปยังไม่สามารถดึงข้อมูลจากแอปอื่นๆ หากไม่ได้รับการอนุญาตได้เช่นเดียวกัน แถมการันตีว่าแอปทั้งหมด 100% ที่อยู่ใน App Store นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มั่นใจเลยว่าแต่ละแอปนั้นมีที่มาจากแหล่งที่ระบุได้ ปราศจากมัลแวร์ที่รู้จัก และไม่มีการดัดแปลงแก้ไขในระหว่างการติดตั้งหรือตอนที่เปิดใช้งานอีกด้วย 

พร้อมมีการกำหนดระดับอายุที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละแอป เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายจึงมั่นใจได้ว่าบุตรหลานจะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้

 

การทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องที่ลื่นไหลลงตัว

อีกเรื่องที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญไปไม่น้อยกว่าข้ออื่นๆ เลยก็คือเรื่องของความต่อเนื่องที่จะช่วยให้เราทำทุกอย่างได้ราบรื่นในเวลาที่รวดเร็วกว่าเดิม ใช่แล้ว ทุกอุปกรณ์ของ Apple ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อ 

อย่างการสแกนเอกสารที่เมื่อก่อนนั้นมีความยุ่งยาก ต้องหาเครื่องสแกนจากนั้นทำการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ก่อนจึงจะใช้งานได้ แต่ความวุ่นวายเหล่านี้จะหมดไป เพราะเราสามารถใช้ iPhone ถ่ายรูปสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ หรือสแกนเอกสารต่างๆ แค่ไม่กี่คลิกภาพหรือเอกสารนั้นๆ ก็จะไปปรากฏบน Mac โดยอัตโนมัติ ทำงานได้ทั้งบนแอป Finder, เมล, ข้อความ, โน้ต, Pages, Keynote และ Numbers เลย

หรือจะเป็นภาพ วิดีโอ และข้อความต่างๆ ที่อยู่ในแอปบน iPhone เราก็สามารถใช้ คลิปบอร์ดกลาง เพื่อคัดลอกแล้ววางลงในอีกแอปหนึ่งบนเครื่อง Mac ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ด้วยเช่นกัน หรือจะคัดลอกจาก Mac เพื่อวางบน iPhone อันนี้ก็ทำได้นะ 

อีกความสามารถที่ใครๆ ก็หลงเลิฟอย่าง AirDrop ที่ช่วยให้การแชร์ไฟล์ไป-มาระหว่างอุปกรณ์ iOS กับ iOS ด้วยกัน หรือแชร์ไปยัง iPadOS และเครื่อง Mac นั้นเป็นเรื่องที่ง๊ายง่าย แถมยังเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงที่ไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi ใดๆ เลย ใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยอันนี้ก็หายห่วงได้ เพราะเราสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ปลอดภัยได้ว่าอนุญาตการรับไฟล์จากใครบ้าง 

ในกรณีที่ไปทำงานนอกสถานที่แล้วไม่มี Wi-Fi ยังใช้ iPhone แชร์ Instant Hotspot ให้เครื่อง Mac ของเราที่อยู่ใกล้ๆ นั้น สามารถใช้งานฮอตสปอตส่วนบุคคลจาก iPhone ได้เลย พริบตาเดียวก็ออนไลน์ได้โดยที่ iPhone ยังอยู่ในกระเป๋า ไม่จำเป็นต้องหยิบออกมาคลิกเลยแหละ อีกอย่างคือเมื่อเลิกใช้งานฮอตสปอตก็จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ ดีต่อการเซฟแบตเตอรี่มากๆ

 

ยังกังวลอยู่เหรอ? เรามีบริการที่พร้อมช่วยเหลือ 24hrs

หากยังรู้สึกกังวลไม่มั่นใจว่าจะใช้งานเป็นหรือไม่ ถ้าเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือในการใช้งานขึ้นมา เราจะถามใครได้? 

ต้องบอกเลยว่า Apple มีบริการที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ สแตนด์บายรอตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมคลายข้อสงสัยให้กับทุกคำถามไม่ว่าจะด้านฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ก็ตาม กับหลากหลายช่องทางที่สามารถติดต่อได้ ทั้งการโทรหา Specialist โดยตรง, แชทออนไลน์กับเจ้าหน้าที่, เดินทางไปที่ร้าน Apple Store หรือจะใช้แอปบริการช่วยเหลือของ Apple ก็ได้เช่นกัน สรุปแล้วคือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาไหน ก็มีผู้ช่วยที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ที่สำคัญบริการช่วยเหลือนี้เราจะได้รับการช่วยเหลือจากคนจริงๆ ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ! นอกจากนี้ยังมีแอป เคล็ดลับ ที่จะช่วยให้เราสามารถใช้ iPhone ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อีกด้วย 

และใครที่พร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าของ iPhone เครื่องใหม่ สามารถช้อปได้แล้ววันนี้ที่ร้านบานาน่าทุกสาขา 

ช้อปออนไลน์ได้ที่ BNN.in.th

–

ขอบคุณข้อมูลจาก : Apple