รีวิว Microsoft Surface Book 2 ประสิทธิภาพสูง มาพร้อมดีไซน์ เบา บาง หรูหรา

เป็น Laptop ที่บาง เบา ดีไซน์สวยหรูพรีเมียมสุดๆ จนใครหลายๆคนที่ได้ลองจับ ได้สัมผัส ก็อยากได้กันเลยทีเดียว โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล PixelSens ขนาด 15 นิ้ว ความละเอียด 3240 x 2160 อัตราส่วนภาพ 3:2 รองรับได้ทั้ง มัลติทัช, Surface Pen และ Surface Dial แถมที่เปิดตัวไปล่าสุดยังมาพร้อมกับชิพ Intel Core รุ่นที่ 8 ทำงานได้เร็วแรงกว่าเดิมถึง 4 เท่าพร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1060 รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่อึดจริงอะไรจริงสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 17 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ถึง 4 โหมด ตามสถานการณ์ที่เพื่อนๆจะเอาไปใช้งานกันเลย ส่วนสเปคอื่นๆเรียกว่า งานนี้ Microsoft จัดหนักจัดเต็มกันเลยไปดูกันดีกว่าว่าจะดีขนาดไหน

สเปคเด่นๆของ Microsoft Surface Book 2

• โปรเซสเซอร์ : Intel Core i7-8650U แบบ Quad-core เจนเนอเรชั่น 8, 4.2GHz Max Turbo
• ซอฟต์แวร์ : Windows 10 Pro Creators Update แบบ 64 บิต
• จอแสดงผล :
  • PixelSense 13.5 นิ้ว
  • ความละเอียด: 3240 x 2160, (260 PPI)
  • G5 มัลติทัช 10 จุด
  • อัตราส่วนภาพ : 3:2
• หน่วยความจำ RAM : ขนาด 16GB 1866MHz LPDDR3
• ระบบความปลอดภัย : ชิป HW TPM 2.0 เพื่อความปลอดภัยขององค์กรปกป้องความปลอดภัยในระดับใช้งานในองค์กรด้วยการเข้าสู่ระบบด้วยใบหน้าของ Windows Hello
• แบตเตอรี่ : เล่นวิดีโอนานสูงสุด 17 ชั่วโมง
• กราฟิก : GPU แบบดิสครีต รุ่น GeForce GTX 1060 ของ NVIDIA พร้อมหน่วยความจำกราฟิก GDDR5 ขนาด 6GB
• กล้อง :
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมวิดีโอ HD 1080p
  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติ พร้อมวิดีโอ HD 1080p
• ไมโครโฟนแบบคู่
• ลำโพงสเตอริโอด้านหน้า พร้อมระบบเสียง Dolby Audio™ Premium
• รองรับ Windows Sonic for Headphones
• การเชื่อมต่อไร้สาย :
  • Wi-Fi :ใช้ได้กับ IEEE 802.11 a/b/g/n/ac
  • เทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth 4.1
  • Xbox Wireless ในตัว (รุ่น 15 นิ้วเท่านั้น)
• เซนเซอร์
  • เซนเซอร์แสงที่ล้อมรอบ
  • เซนเซอร์ตรวจจับบริเวณใกล้เคียง
  • มาตรวัดความเร่ง
  • ไจโรสโคป
  • มาตรวัดแม่เหล็ก

หน้าตากล่องก็จะสีขาวเรียบหรู มีรูปสินค้าอยู่ชัดเจน ส่วนด้านหลังกล่องก็จะมีสเปค รายละเอียดต่างๆบอกอยู่กล่องก็จะปิดแน่นนิดนึงเวลาเปิดก็ระวังกันหน่อยเนอะ

เปิดกล่องมาก็จะพบอุปกรณ์ที่ถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อย ในกล่องก็จะประกอบไปด้วยตัว Laptop Microsoft Surface Book 2, ตัว Adapter พร้อมหัวแปลงสำหรับชาร์จไฟ, คู่มือเริ่มต้นใช้งาน เอกสารความปลอดภัย และการรับประกัน

มาดูในส่วนของหน้าจอกันบ้าง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีน PixelSense 13.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดสูงสุด 3240 x 2160 (260 PPI) ที่ให้สีสันความคมชัดสมจริงจนคุณต้องทึ่ง รองรับการทัชหน้าจอพร้อมๆกันได้ถึง 10 จุด รวมไปถึงซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder 5 Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันสมจริงแบบสุดๆ และยังสามารถรองรับ Surface Pen รุ่นใหม่ล่าสุดที่ลงมือวาดรูป เขียน แบบทำมุมเอียง ซึ่งตอบสนองต่อแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ และ Surface Dial ได้อีกด้วย ให้เพื่อนๆปล่อยจิตนาการ ความคิด ไอเดียต่างๆได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นยังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ถึง 4 โหมดตามสไตล์ที่เพื่อนๆทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโหมด Laptop ซึ่งก็คือโหมดปกติที่ใช้กัน, ต่อมาก็จะเป็นโหมดแท็บเล็ตซึ่งเป็นโหมดที่ถอดแยกหน้าจอออกจากตัวคีย์บอร์ด เพื่อใช้ทำงานแบบออกแบบสร้างสรรค์และพกพาสะดวก, ถัดมาก็จะเป็นโหมด Studio ที่สามารถพับหน้าจอกับคีย์บอร์ดเข้าหากันโหมดนี้เหมาะสำหรับการวาดภาพ หรือจะสเก็ตภาพด้วยตำแหน่งที่สอดรับกับการเขียนได้อย่างสะดวกสบาย เพราะหน้าจอจะทำมุมเอียงซึ่งเหมาะสมสำหรับการวาดๆเขียนๆ มากที่สุดนั่นเอง, และโหมดสุดท้ายได้แก่ โหมดมุมมองสามารถถอดแยกหน้าจอโดยการกดปุ่ม หันเปลี่ยนด้าน แล้วประกอบหน้าจอกลับเข้าที่เพื่อแบ่งปันเนื้อหาหรือนำเสนองาน พร้อมลำโพง 2 ตัวแบบสเตอริโอระบบเสียง Dolby Audio™ Premium อยู่ตรงบริเวณขอบๆหน้าจอเลย เสียงใส ฟังดังชัดดีเว่อร์ ตอบโจทย์สำหรับการนำไปใช้เพื่อความบันเทิงสุดๆ เช่น ชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมสุดโปรดของคุณ

มาพูดถึงกล้องหน้ากล้องหลังของ Microsoft Surface Book 2 กันบ้างนอกจากตัวเครื่องจะมีดีไซน์สวยงามบางเบาแล้วก็ยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ HD 1080p ที่เอาไว้ให้เพื่อนๆได้เซลฟี่หรือจะเอาไว้สำหรับเล่นวีดีโอคอลซึ่งคุณภาพของกล้องก็ดีงาม คมชัดพร้อมรองรับฟีเจอร์ Windows Hello ซึ่งเป็นนวัตกรรมการตรวจจับใบหน้า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเครื่องได้อย่างรวดเร็วด้วยเซ็นเซอร์อินฟาเรดที่ฝังอยู่กับกล้องหน้า เพื่อเข้าใช้ตัวเครื่องได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำส่วนกล้องหลังความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล แถมยังโฟกัสอัตโนมัติด้วยรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ HD 1080p เช่นเดียวกับกล้องหน้า

มาดูด้านซ้ายและด้านขวาของตัวเครื่องกันก็จะเจอกับพอร์ตต่างๆ มาดูกันว่าเจ้าตัว Surface Book 2New นี้จะมีพอร์ตอะไรมาให้บ้าง หลังจากที่ลองเล่นดูก็ให้มาครบเลยนะไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-C ไว้สำหรับโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงรวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอก ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆสามารถดูหนังกันได้อย่างเต็มจอ เล่นเกมส์มันส์กว่าเดิมด้วยหน้าจอใหญ่ซะใจ พร้อมพอร์ต USB 3.0 Type-A จำนวน 2 พอร์ต ที่จะช่วยทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยตรง อีกทั้งยังมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรตำแหน่งอยู่ตรงมุมเครื่องนอกจากนั้นก็ยังมีพอร์ต SD Card Reader ไว้โอนถ่ายไฟล์ข้อมูลต่างๆ อาทิรูปภาพ วีดีโอ ฯลฯ และเอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ด้วย

คีย์บอร์ดดีไซน์สวยงามพรีเมียมสุดๆ สีเจ้าคีย์บอร์ดก็มีสีเหมือนกับตัวเครื่องเลย ตัวอักษรสีดำเห็นชัดเจนหลังจากที่ได้สัมผัสรู้สึกว่าคีย์บอร์ดตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดีขนาด Full Size เต็มนิ้วดีช่วยให้การพิมพ์ได้แม่นยำ มาพร้อมไฟเรืองแสงตามตัวอักษรและตรงใต้แป้นพิมพ์สามารถทำงานในที่ที่มีแสงน้อยได้ยังไงก็มองเห็น ส่วนทัชแพดแบบกระจกขนาดใหญ่เรียบๆไม่มีปุ่มอย่างที่หลายๆรุ่นกำลังฮิตทำกัน ถือว่าประสิทธิภาพการทำงานดีเลย

Surface Book 2 ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ นอกจากจะเป็น Laptop ที่ดีไซน์สวยงามบางเบา พกพาสะดวกแล้วก็ยังสามารถแปลงร่างเพื่อช่วยรองรับการใช้งานได้สะดวกถึง 4 โหมดด้วยกัน คือ โหมด Laptop, โหมดแท็บเล็ต, โหมด Studio และสุดท้าย โหมดรับชม โดยการแยกหน้าจอที่โดนดูดกันด้วยแม่เหล็กที่ใช้ไฟฟ้าในการควบคุม ด้วยการกดปุ่มตามรูปที่เราได้ถ่ายเอาไว้เลย แต่ต้องกดปุ่มแล้วรอให้ไฟสีเขียวๆติดก่อนนะแล้วค่อยดึงขึ้น ใช้ง่ายๆไม่ยุ่งยากเวลาใส่กลับเข้าไปที่เดิมไม่ต้องกดอะไรเลยมันก็จะดูดเข้าไปเอง

ตรงในส่วนของบานพับทาง Microsoft เขาก็ตั้งใจปรับปรุงดีไซน์ออกมาให้เวลาพับฝาลงมาแล้วปิดไม่สนิท ก็เพื่อเวลาปรับเปลี่ยนเป็นโหมดที่ใช้สำหรับการขีดเขียน วาดรูป ก็จะช่วยให้หน้าจอรองรับการใช้งาน Surface Pen ได้ดีมากยิ่งขึ้น

สรุปโดยรวมถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่ดีไซน์เรียบหรูพรีเมี่ยม เบาบางที่สุดเลยก็ว่าได้ พกพาไปทำงานที่ไหนตรงไหนก็สะดวก แถมหน้าจอยังสามารถแยกออกมาจากตัวคีย์บอร์ดเพื่อให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายถึง 4 โหมดด้วยกัน คือโหมด Laptop, โหมดแท็บเล็ต, โหมด Studio และสุดท้ายโหมดรับชม ไม่ว่าจะทำงาน นำเสนองาน หรือจะดูหนัง เล่นเกมส์ฟังเพลง ก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ หน้าจอสีค่อนข้างดีทีเดียวคมชัดสมจริง ลำโพงก็เสียงดี ดังใช้ได้ ส่วนสเปคก็มีมาให้อย่างครบทุกความต้องการไม่ว่าโปรเซสเซอร์ Intel i5 Gen 7 รวมไปถึงรุ่นที่เป็น i7 Gen 8 การ์ดจอแยก GTX 1060 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ทำงานได้ไหลลื่นกว่าเดิมถึง 4 เท่าเลย พร้อมระบบความปลอดภัยสแกนใบหน้าด้วยฟีเจอร์ Windows Hello ต้องถือว่ารวดเร็วและแม่นยำจริงๆ รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 17 ชั่วโมง โดยไม่ต้องชาร์จ ซึ่งก็ทำได้จริงนะแต่ต้องไม่เล่นอะไรหนักๆนะจ๊ะ

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจ สามารถมาจับ มาลองตัวจริงกันได้ที่ BaNANA ทุกสาขาค่ะ