เทคนิคถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วยมือถือ OPPO Reno 4 ถ่ายยังไงก็ปัง

วันนี้แอดเดินบังเอิญไปเจอสถานที่ถ่ายรูปแห่งใหม่มาดีงามมากกก วันนี้แอดก็เลยจะมีเทคนิคในการถ่ายรูปแบบเก๋ไก๋มาฝาก เผื่อเพื่อนๆที่อยากถ่ายรูปแต่ไม่รู้จะทำท่าไหน ถ่ายอย่างไรดี แต่อยากจะได้รูปเก๋ๆแบบไม่ซ้ำใครไปถ่ายอวดเพื่อนๆลงโซเซี่ยลตามมาฟังทางนี้เลยจ๊ะ และที่สำคัญก็คือรูปทั้งหมดนี้ถ่ายด้วยกล้อง OPPO Reno 4 ระบบ AI อัจฉริยะ กล้อง 4 เลนส์ ที่ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP และเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP พร้อมไฟแฟลช ส่วนกล้องเซลฟี่คู่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์วัดระยะ 2 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์เสริม Ultra Night Video, Ultra Steady Video 3.0 พร้อมกับระบบฟีเจอร์กันสั่นที่ระบบวิดีโอกล้องหน้า พร้อมกับ Hyperlapse รวมไปถึงการถ่ายรูปด้วยฟีเจอร์ AI Color Portrait ที่จะช่วยให้บุคคลในภาพนั้นโดดเด่นไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแค่ไหนก็ตาม

 

เทคนิคถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วยมือถือ OPPO Reno 4

1. เล่นกับแสงและเงา by OPPO Reno 4

เพิ่มลูกเล่นให้ภาพด้วย “การเล่นกับแสงและเงา” ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดึงดูดสายตาในภาพได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับแสงไฟ หรือจะเป็นแสงอาทิตย์ก็ตาม อย่างเช่นในภาพนี้ก็จะเป็นการถ่ายบุคคลที่แสงไฟสาดมาโดนหน้าไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งของหน้าก็จะโดนแสงสว่าง ช่วยเสริมอารมณ์ในภาพได้ดีมากขึ้น

 

หน้าชัดหลังละลาย portrait by OPPO Reno 4

การถ่ายแบบ portrait เป็นการถ่ายที่นิยมมากๆ แล้วเดี๋ยวนี้มือถือหลายๆรุ่นอย่าง OPPO ก็พัฒนากล้องถ่ายรูปจากที่ดีอยู่แล้วก็ดียิ่งขึ้นไปอีก แล้วคือการถ่ายรูปแบบ portrait ก็เป็นเทคนิคการถ่ายภาพที่ช่วยให้ตัวบุคคลในภาพนั้นโดดเด่นออกจากสิ่งแวดล้อม ก็เพียงแค่หยิบ OPPO Reno 4 แล้วก็กดไปที่โหมด portrait แล้วก็แตะหน้าจอไปในส่วนบุคคลที่ต้องโฟกัสจากนั้นก็กดแชะได้เลย

 

3. คมชัดแม้ในที่แสงน้อยด้วย Night Flare Portrait by OPPO Reno 4

เพื่อนๆหลายคนคงเคยกังวนใช่ม่าว่าเอามือถือไปถ่ายภาพไฟตอนกลางคืนแล้วจะไม่สวย ความสามารถไม่ถึงหรอก ถ่ายแล้วหน้าต้องมืดแน่ๆใช่ป่ะ งั้นเพื่อนๆต้องลองถ่าย OPPO Reno 4 ดูแล้วปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยกับการถ่ายไฟคริสมาสด้วยโหมด Night Flare Portrait เริ่มด้วยการเปิดโหมดก่อนโดยไปที่โหมด Portrait แล้วก็เลือกไปที่ Filter ตรงมุมซ้ายบนแล้วเลือกที่ Night Flare Portrait เป็นโหมดที่ใช้สำหรับถ่ายภาพให้มีโบเก้ แถม AI ก็ยังช่วยปรับใบหน้าให้สว่างสดใส และยังช่วยละลายพื้นหลังแบบโบเก้ได้สบายแบบไม่ต้องง้อกล้องใหญ่ก็ได้

 

4. ถ่ายภาพด้วยโหมด Ultra Wide-Angle by OPPO Reno 4 เก็บทุกบรรยายกาศรอบด้าน

โหมด Ultra Wide-Angle by OPPO Reno 4 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถือว่าเป็นโหมดที่กว้างมาก กว้างแบบที่ว่าเก็บทุกรายละเอียดสิ่งแวดล้อม วิวทิวทัศน์ได้อย่างครอบคลุมโดยแทบไม่ต้องเดินถอยหลังไปไกลๆเลย นอกจากจะเก็บภาพวิวกว้างๆได้แล้ว ถ่ายเอาเลนส์นี้มาใช้ถ่ายบุคคลก็จะช่วยให้บุคคลนั้นดูผอม เพรียว ขายาวได้ด้วยนะจ๊ะ เรียกว่าเป็นเลนส์ที่ดีตอบโจทย์สำหรับเพื่อนๆที่ชอบถ่าย วิวทิวทัศน์ เวลาไปเที่ยวมากๆ

 

5. อยู่เด่นๆ คนเดียวไปเลย ด้วยโหมด AI Color Portrait by OPPO Reno 4

ถ่ายภาพด้วยโหมด AI Color Portrait by OPPO Reno 4 สำหรับโหมดนี้นั้นจะช่วยให้เพื่อนๆในภาพนั้นโดดเด่นคนเดียวไปเลย ด้วยารละลายฉากหลัง และเปลี่ยนฉากหลังให้กลายเป็นสีขาวดำ แต่คงสีที่ตัวบุคคลไว้ โดยผู้ใช้จะเห็นภาพแบบ real-time เพราะฉะนั้นหากต้องการถ่ายภาพในโหมดนี้ให้ออกมาโดดเด่น แนะนำให้ตัวแบบใส่เสื้อผ้าที่สีสดไปด้วยนะจ๊ะ นอกจากกล้องหลังจะทำได้แล้ว กล้องเซลฟี่ก็ไม่น้อยหน้าน๊าสามารถถ่ายภาพด้วยโหมด AI Color Portrait ได้ด้วยเช่นเดียวกันเริ่ดไปเลยไหมละสำหรับสมาร์ทโฟน OPPO Reno 4 รุ่นนี้

 

6. OPPO Reno 4 เครื่องเดียว เที่ยวสบาย ในราคาพิเศษเพียง 10,990 บาท จากปกติ 11,990 บาท

OPPO Reno 4 นอกจากกล้องระบบ AI อัจฉริยะ 4 เลนส์แล้ว ก็มาพร้อมเทคโนโลยี AI-enhanced Smart Sensor ที่จะมาช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นยกตัวอย่างเช่น 4 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ Smart Spying Prevention เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสุดๆ โดยจะมาช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณจากคนที่กำลังแอบมองหน้าจอคุณอยู่ โดยจะซ่อนการแจ้งเตือนที่ได้รับทันที, Smart Air Control เป็นฟีเจอร์ที่ควบคุมการทำงานหน้าจอโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอ เพียงแค่โบกมือขึ้น-ลง เพื่อเลื่อนส่องดูแอพพลิเคชั่นต่างๆรวมถึงสามารถรับสายได้ดัวย, Smart Rotation เป็นฟีเจอร์ที่จับใบหน้าผู้ใช้เพื่อปรับมุมมองการแสดงผลให้เหมาะสมและ Smart Always on Display ฟีเจอร์ที่จะมาช่วยให้หน้าจอสว่างตลอดเวลาในขณะที่เรายังจ้องจออยู่ นอกจากนั้นก็ยังมาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio P95 ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมมีแบตเตอรี่ความจุ 4015mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ภายในเวลา 57 นาทีเท่านั้น ทั้งหน้าจอก็ใหญ่ดูได้เต็มตา AMOLED Full HD+ ขนาด 6.4 นิ้ว ให้สีสวยงาม คมชัด ส่วนกล้องแทบไม่ต้องบอกเลยว่าดีเริ่ดขนาดไหนแถมยังมาพร้อมสโลแกน “Clearly the best you ถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที่เป็นคุณ”

เป็นเจ้าของ OPPO Reno 4 ได้แล้ววันนีั้ ในราคาพิเศษเพียง 10,990 บาท จากปกติ 11,990 บาท ที่บานาน่าทุกสาขา

 

งาน House of Illumination

สถานที่ที่เราไปถ่ายวันนี้ก็คือ งาน ‘House of Illumination’ นิทรรศการศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ร่วมมือกับห้างเซ็นทรัล, เอปสัน และ ออปโป้ ทุ่มทุนสร้างโปรเจคยักษ์แห่งปี ซึ่งงานนี้ก็คือนิทรรศการศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด Digital • Art • Experience มีการผสมผสานเรื่องของศิลปะ ดิจิทัล และเทคโนโลยีไว้ด้วยกัน โดยจัดแสดงที่เซ็นทรัลแกลอรี ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.2563 ไปจนถึงเดือน ต.ค. 2565 ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปแบบ แนวคิด และเนื้อหาการแสดงทุกๆ 3 เดือน โดยไฮไลท์ในงานนี้จะอยู่ที่แสงสีเสียงที่แสดงโชว์ในแต่ละห้อง โดยภายในงานก็จะแบ่งออกเป็น 8 ห้อง ได้แก่

 

ห้องที่ 1 THE CUBE ดำดิ่งสู่ HOUSE OF ILLUMINATION ผ่านอุโมงค์ที่ประกอบจากโครงสร้าง LED Strip

 

ห้องที่ 2 LASER CAGE เขาวงกตแห่งแสง กับเทคนิคการสร้างขอบเขตพื้นที่ด้วย Laser Heads ถึง 600 ตัว

 

ห้องที่ 3 SHINNING SYMPHONY สนุกกับอินเทอร์แอคทีฟเลเซอร์ ในรูปแบบเครื่องดนตรี

 

ห้องที่ 4 THE LEVITATION ล่องลอยท่ามกลางหมู่ดาวกับเทคนิคพิเศษที่พลิกพื้นดินสู่ห้วงอวกาศ ด้วยการวางกระจกในแนวเฉียง 45 องศา

 

ห้องที่ 5 THE GLOWING SCULPTURE การสร้างรูปปั้นจากแสงโดยเทคนิค 3D LED Pixel,

 

ห้องที่ 6 THE INFINITE TUNNEL ตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์กระจกสะท้อนภาพแบบไม่รู้จบ

 

ห้องที่ 7 FROM FOREST TO SPACE สนามเด็กเล่นในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ

 

ห้องที่ 8 THE BOUNDLESS ดื่มดำในบรรยากาศ แห่งศิลปะดิจิทัล และเทคโนโลยีการแสดงแสง สู่โลกแห่งจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด