Microsoft Surface Pro 8 Review ทำงานอย่างโปร ด้วยประสิทธิภาพระดับโปร

สำหรับวันนี้เรามีอุปกรณ์สุดพรีเมี่ยมของใหม่ล่าสุดจากค่าย Microsoft อย่าง Microsoft Surface Pro 8 มาแนะนำกันครับ

ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการต่อยอดความโปรจากรุ่นก่อนมาได้อย่างดีเยี่ยม รองรับทุกการทำงานระดับโปร มี Spec ให้เลือกได้ตามงบและการใช้งาน ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งการทำงานหนักๆ และความบันเทิงแบบจัดเต็ม

เราไปดูกันเลยครับ Microsoft Surface Pro 8 Review ทำงานอย่างโปร ด้วยประสิทธิภาพระดับโปร 

เรามาดู Spac ของ Microsoft Surface Pro 8 รุ่นที่เราได้มารีวิวกันก่อนครับ โดยเราได้มาเป็นตัว i5/8/256

Screen Size : 13 inch
Display : PixelSense Flow Display 2880 x 1920 Aspect ratio 3:2 Touch 10 point multi-touch
Processor : Intel Core i5-1135G7
Memory : RAM 8 GB
Storage : ROM 256 GB
expandable memory and sim card : N/A
Graphics : Intel Iris Xe graphics
Operating System : Windows 11 Home/Microsoft 365 30 day Free Trial + Xbox Game Pass Utlimate 30 day Trial
Camera : 5.0MP front-facing camera with 1080p full HD video 10MP rear-facing autofocus camera with 1080p full HD video Dual far-field Studio Mics 1.6W stereo speakers with Dolby Audio Premium
Connection ports : 2 x USB-C, 3.5 mm headphone jack, 1 x Surface Connect port, Surface Type Cover Port, MicroSDXC Card Reader, Compatible with Surface Dial*
Wireless : Wi-Fi 6: 802.11ax compatible Bluetooth Wireless 5.0 technology
Battery Life : Up to 16 hours of typical device usage
Color : Graphite
Dimensions W x D x H 29.2 x 20.1 x 0.85 cm.
Weight 0.89 Kg.
Warranty 1 Year limited hardware warranty
Option N/A

ดีไซน์
มาดูเรื่องดีไซน์ของ Microsoft Surface Pro 8 ตัวนี้กันก่อนเลย วัสดุตัวเครื่องใช้วัสดุเดียวกับ Microsoft Surface Pro X ซึ่งเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ ให้ความเรียบหรู ดูพรีเมียม พกพาไปไหนก็ดูดีมีสไตล์ และยังคงมีบานพับ Kickstand ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Microsoft Surface ที่สามารถกางเป็นขาตั้งได้ และยังสามารถปรับองศาตามการใช้งานได้ถึง 180 องศา ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีกล้องอยู่ 1 ตัว เป็นกล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ในส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 891 กรัม สามารถพกพาไปทำงานได้ทุกที่ มาพร้อมสีใหม่นั่นก็คือสีดำ Graphite ที่ดูสวยงาม น่าค้นหามากๆ

พอร์ตการเชื่อมต่อรอบตัวเครื่อง
เริ่มจากทางฝั่งขวาของตัวเครื่อง ด้านบนจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ถัดลงมาก็จะเป็นพอร์ต USB Type-C จำนวน 2 พอร์ต เป็น USB 4.0 และ Thunderbolt 4 ซึ่งทาง Microsoft ได้เพิ่มมาให้ตามคำเรียกร้องของแฟนๆ Microsoft Surface โดยข้อดีของพอร์ต Thunderbolt 4 ก็มีมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว หรือจะเป็นการต่อหน้าจอ External Monitor ความละเอียด 4K ได้ถึง 2 จอ รวมถึงรองรับการชาร์จไฟ และจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆได้อีกด้วย ถัดลงมาก็จะเป็นพอร์ต Surface Connect ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนทางฝั่งซ้ายของตัวเครื่องก็มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาก็จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีพอร์ตอะไร ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีแถบแม่เหล็ก สำหรับต่อกับคีย์บอร์ด Microsoft Surface Pro Signature Keyboard เพื่อปรับเป็นโหมดแล็ปท็อปได้

หน้าจอ
ต้องบอกว่าดีไซน์หน้าจอของ Microsoft Surface Pro 8 จะมีความคล้ายคลึงกับ Microsoft Surface Pro X ก็คือมีพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขอบจอบางลง โดย Surface Pro 8 มาพร้อมหน้าจอขนาด 13 นิ้ว อัตราส่วนเป็นแบบ 3:2 ความละเอียด 267ppi หรือ 2880×1920 พิกเซล ให้ภาพที่คมชัดสมจริงด้วย Dolby Visions รองรับอัตรา Refresh rate สูงสุดที่ 120Hz และยังมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง PixelSense Flow ที่ช่วยให้การแสดงผลบนหน้าจอ มีความสมูทไหลลื่นมากขึ้น นอกจากนี้ Microsoft Surface Pro 8 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมใหม่ อย่างปากกา Microsoft Surface Slim Pen 2 ที่ได้รับการอัปเกรดให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งความแม่นยำในการจดบันทึก ขีดเขียน หรือจะเป็นการวาดรูป ไฮไลท์ข้อความต่างๆ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเขียนบนกระดาษ เรียกว่าทำได้ดีกว่าเดิมเยอะเลย ในส่วนขอบจอด้านบนก็จะมีกล้องอยู่ 1 ตัว เป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD ให้ภาพที่คมชัดในเวลาที่เรา Video Conference รวมถึงสามารถเข้าใช้งานด้วยการสแกนใบหน้าผ่าน Windows Hello ได้อย่างปลอดภัยเหมือนเดิม

สเปกเครื่องโดยรวม
ถ้าพูดถึงสเปคของ Microsoft Surface Pro 8 ตัวนี้ ต้องบอกว่าตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายขึ้น เพราะทาง Microsoft ได้ทำการอัปเกรดชิปประมวลผลหรือซีพียูเป็น Intel Gen 11 และได้มาตรฐาน Intel EVO Platform ซึ่งตัวที่ผมรีวิวอยู่นี้ใช้ซีพียู Intel Core i5-1135G7 ทำงานร่วมกับ RAM 8GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็น SSD ความจุ 256GB ประมวลผลกราฟิกด้วยชิปกราฟิก Intel Iris Xe ซึ่งมีประสิทธิภาพการประมวลผลเทียบเท่ากับการ์ดจอแยกบางตัว และยังมาพร้อมกับ Windows ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Windows 11 Home ที่มีฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.1 อีกด้วย

การใช้งานจริง
สำหรับเรื่องของการใช้งาน ก็ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายจริงๆ ทั้งเรื่องของการทำงานและให้ความบันเทิง อย่างพวกงานเอกสารที่ใช้เป็นประจำบนโปรแกรม Microsoft Office อันนี้ใช้งานได้สบายๆอยู่แล้ว ส่วนการใช้งาน Multi-Tasking เปิดหลายๆโปรแกรม หลายๆหน้าต่างพร้อมๆกัน ต้องบอกว่า Microsoft Surface Pro 8 เอาอยู่จริงๆ ไม่มีอาการหน่วง ส่วนการใช้งานด้าน Content Creator อันนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์มากๆ ทั้งการออกแบบกราฟิก, การวาดรูป, Sketch ภาพ หรือจะเป็นการตัดต่อวิดีโอ ก็ทำได้สบายๆ และที่ชอบที่สุดก็คือการใช้ปากกา Surface Slim Pen 2 ในการจดบันทึก ขีดเขียน วาดรูป มันให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเหมือนเราใช้ปากกาจดบนกระดาษจริงๆ

ข้อสังเกตเรื่องการใช้งาน
Microsoft Surface Pro 8 ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องเลือกรุ่นที่มีความจุเพียงพอกับการใช้งานของเราด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีตัวเลือกในการซื้อ Microsoft 365 เพิ่ม เพื่อที่จะได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Cloud เพิ่มอีก 1TB นอกจากนี้ Microsoft Surface Pro 8 ไม่รองรับ LTE คือไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ รองรับเพียงแค่ Wi-Fi อย่างเดียว และที่สำคัญคีย์บอร์ด Type Cover ของ Surface Pro 7 ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Microsoft Surface Pro 8 ได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ต้องการอัปเกรดจาก Surface Pro 7 มาเป็น Surface Pro 8 ก็ต้องเผื่อเงินไว้ซื้อคีย์บอร์ด Microsoft Surface Pro Signature Keyboard ซึ่งมีให้เลือกหลายสีเลยทีเดียว

Microsoft Surface Pro 8 เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตรุ่นโปรที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถปรับใช้งานได้แบบ 2 in 1 ทั้งโหมดแท็บเล็ตและแล็ปท็อป รวมถึงเหมาะกับคนที่มองหาแท็บเล็ตที่สามารถใช้ปากกาขีดเขียน วาดรูป จดบันทึก หรือจะใช้ทำงานด้าน Content Creator ไม่ว่าจะออกแบบกราฟิก แต่งรูปภาพ ตัดต่อภาพ ตัดต่อเสียง ตัดต่อวิดีโอก็ทำได้แบบสบายๆ หรือจะใช้งานด้านความบันเทิงอย่างการดูหนัง ดูซีรีส์ ดู Netflix ก็ให้ภาพที่คมชัดเต็มอรรถรส ส่วนการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทั่วๆไปได้ แต่ถ้าเป็นเกมที่กินสเปคเยอะๆอันนี้ไม่แนะนำ และด้วยดีไซน์ที่ดูพรีเมียมของ Microsoft Surface Pro 8 ยังช่วยเสริมบุคลิกให้กับคนที่เป็นผู้บริหาร รวมถึงคนที่ทำงานเกี่ยวกับการพบปะลูกค้าด้วยเช่นกัน

โดย Microsoft Surface Pro 8 ออกมาพร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกันถึง 5 รุ่นครับ สามารถเลือกได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน และงบประมาณของตัวเอง โดยรายละเอียดราคาของแต่ละรุ่น มีดังนี้ครับ

รุ่น Core i5 / RAM 8GB / ความจุ 128GB / สี Platinum ราคา 39,590 บาท
ช้อปออนไลน์ คลิ๊กเลย

รุ่น Core i5 / RAM 8GB / ความจุ 256GB / สี Graphite ราคา 42,790 บาท
ช้อปออนไลน์ คลิ๊กเลย

รุ่น Core i5 / RAM 16GB / ความจุ 256GB / สี Graphite ราคา 52,190 บาท
ช้อปออนไลน์ คลิ๊กเลย

รุ่น Core i7 RAM 16GB / ความจุ 256GB / สี Graphite ราคา 59,190 บาท
ช้อปออนไลน์ คลิ๊กเลย

รุ่น Core i7 RAM 16GB / ความจุ 512GB / สี Graphite ราคา 69,900 บาท
ช้อปออนไลน์ คลิ๊กเลย

โดยหากใครที่สนใจนะครับ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน BaNANA ทุกสาขาเลยครับ หรือถ้าอยากช้อปออนไลน์ง่ายๆ ก็แค่เข้าไปที่ BNN.IN.TH หรือกดตาม Link ด้านบนที่เราวางไว้ให้แล้วได้เลยครับ

อย่าลืมมาติดตามเรื่องราวสินค้า IT ดีๆ ได้ใหม่ในครั้งหน้ากับ BaNANA ครับ