รีวิว Huawei P20 pro โดดเด่นด้วยกล้องหลัง Leica 3 ตัว 40 ล้านพิกเซล
- April 12 2018
- By: BaNANA Admin
เป็นรุ่นเรือธงที่ใครหลายๆคนต่างรอคอย จะไม่คอยได้ไงละก็กล้องเจ๋ง สุดล้ำ เลอค่าซะขนาดนี้ เปิดตัวมาพร้อมกล้อง 3 ตัว เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX-H1:1.6-2.4/27-80ASPH ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) เสริมทัพอันแข็งแกร่งด้วย Master AI อันชาจฉลาดที่จะมาช่วยให้รูปถ่ายสวยเริ่ดแบบยากที่จะหาใครมาเปรียบ รวมไปถึงสามารถซูมภาพได้ไกลถึง 5 เท่า และยังรองรับฟีเจอร์การถ่ายภาพวิดีโอแบบ Super Slow Motion 960fps ดีงามสุดๆ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, หน้าจอไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2240 ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย EMUI 8.1 เวอร์ชันล่าสุด รวมไปถึงชิปเซ็ต Kirin 970, RAM 6GB, ROM 128GB พร้อมลำโพงเสียงคู่แบบ Stereo Spaeker และก็ยังรองรับ Dolby Atmos เสียงดีรายละเอียดของเสียงครบถ้วน เครื่องอึดใช้ข้ามวันไปเลยด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมรองรับระบบ SuperCharge ชาร์จแป๊ปเดี๋ยวเต็ม รวมไปถึงตัวเครื่องป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67
สเปคเด่นๆของ Huawei P20 Pro
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1
- หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240×1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Huawei Kirin 970 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.36GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ UFS ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/8+F/1.6+F/2.4 พร้อมฟีเจอร์ Super Slow Motion 960fps และเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 พร้อมเทคโนโลยี AI
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ที่แสตนบาย 4.5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- คุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยี Huawei SuperCharge
- ตัวเครื่องมีขนาด (กว้าง x สูง x หนา) 73.9 x 155 x 7.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนักประมาณ 180 กรัม
ดีไซน์ดีงามมากกสวยหรูจริงบอกเลย ด้วยบอดี้กระจกโค้งแบบ 3D มีความเงางามเป็นพิเศษ ในที่นี้เราได้เครื่องมา 2 สี ได้แก่ สีมิดไนท์บลู (Midnight Blue) ก็จะเป็นสีน้ำเงินเข้มๆหน่อยตัวบอดี้ก็ทำมาจากกระจกเงาวับๆเหมือนกันที่อยู่ทางซ้ายมือนะ ส่วนทางขวามือก็จะเป็นตัวเด่นของ Huawei รุ่นนี้เลย นั่นก็คือสีทไวไลท์ (Twilight) ที่ไล่ระดับเฉดสีจากม่วง น้ำเงิน ฟ้าอมเขียว งดงามเป็นที่สุด ขนาดก็กำลังดี เล่นมือเดียวสะดวก หน้าจอกว้างไร้ขอบเล่นเกมส์เพลินด้วยขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240×1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9 แสดงผลแบบ OLED FullView Display สีสวยสดใสสมจริง รวมไปถึงบอดี้มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 ทนทานต่อน้ำและฝุ่น รวมถึงน้ำที่สาดกระเซ็น ตามมาตรฐาน IEC 60529 และ Huawei บอกว่าเจ้ารุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่มีการควบคุมแล้วเรียบร้อยด้วย
ส่วนบนของตัวเครื่องก็จะเจอกับลำโพงที่ใช้ในการสนทนา โทรออก- รับสาย รวมไปถึงเซ็นเซอร์ต่างๆ ถัดมาก็กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง F/2.0 มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI สุดล้ำที่จะช่วยให้ภาพสวยเพอร์เฟคมากกว่าที่เคย รวมไปถึงเทคโนโลยี 3D Portrait Lighting ที่จะทำให้เพื่อนๆเซลฟี่สวยโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ รวมไปถึงยังสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วนทุกองค์ประกอบของภาพ พร้อมรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเข้าใช้งานเครื่องด้วยซึ่งทำงานรวดเร็วสุดๆเลย
ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเจอกับปุ่มสัญลักษณ์ 3 ปุ่ม ปุ่มแรกคือปุ่ม Recent Apps ตามด้วยปุ่ม Home ไว้สำหรับกลับหน้าจอหลัก แล้วก็ปุ่ม Back ที่เอาไว้สำหรับออกจากหน้าเว็บหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆทีละสเต็ป ปุ่มพวกนี้ใช้งานแบบ Smart Navigation ปุ่มข้างล่างสุดก็ทำงานคล้ายกับปุ่ม Home นั่นแหละแตะเบาๆทีหนึ่งก็ออกจากหน้านั้นๆหนึ่งสเต็ป แตะค้างไว้ก็ออกมาหน้าหลักเลย พร้อมเป็นตำแหน่งที่ใช้ในการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานตัวเครื่องด้วย นอกจากนั้นก็ยังสามารถรองรับการจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือด้วยกัน
มาดูท้ายเครื่องกันบ้างก็จะเจอกับลำโพงหลักแบบคู่ Stereo Speaker พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ให้เพื่อนๆได้ฟังเพลงเสียงดังดีเยี่ยม แหมก็มาลำโพงคู่ซะขนาดนี้ไม่ดังได้ไงล่ะ พร้อมเก็บทุกรายละเอียดของเสียงอย่างชัดเจน ไม่ว่าเพลงจะแนวไหนก็เปิดมาเลย เข้าถึงอารมณ์ทุกเพลงแนวนอน ไม่ใช่แต่เพลงนะ จะเล่นเกมส์ ดูหนังก็ดีงามหมดล่ะ ส่วนตรงกลางก็จะเป็นช่องที่ไว้สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่โอนย้ายถ่ายข้อมูลเป็น แบบ USB Type-C
ในส่วนของด้านบนเครื่องก็จะมีไมโครโฟนตัวที่สองช่วยในการตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา และก็เซ็นเซอร์อินฟาเรด
มาทางขอบด้านขวาของตัวเครื่องก็จะเจอกับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง และก็ปุ่ม เปิด-ปิดเครื่องและก็สามารถกดสำหรับล็อคหน้าจอด้วย แต่ถ้ากดปุ่มลดระดับเสียงไปพร้อมๆกับปุ่มล็อคหน้าจอก็จะเป็นปุ่มที่ช่วยในการแคปหน้าจอด้วย นอกจากนั้น ถ้าเราดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มลดเสียงก็จะสามารถเข้าสู่โหมดถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วถึงแม้หน้าจอจะปิดอยู่ก็ตาม
ส่วนขอบด้านซ้ายของเครื่องก็จะเจอกับถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด เอาออกมาโดยเอาที่จิ้มซิมที่แถมมาในกล่องจิ้มไปในรูเล็กๆ ถาดซิมก็จะเด้งออกมา โดยถาดใส่ซิมการ์ดนั้นจะเป็นแบบ 2 Slot ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 2 ซิมและก็พร้อมใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE พร้อมกันทั้ง 2 เลยด้วย
ข้างหลังเครื่องประกอบไปด้วยกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) จุดว้าวมันอยู่ตรงนี้โดยกล้อง 3 ตัวแรกเป็นเซ็นเซอร์รับแสงแบบอาร์จีบี (RGB Sensor) มีความละเอียดอยู่ที่ 40 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง F/1.8 กล้องอีกตัวจะเป็นเซ็นเซอร์รับแสงสีขาวดำ (Monochrome Sensor) มีความละเอียดอยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง F/1.6 และเซ็นเซอร์รับแสงสำหรับถ่ายภาพระยะไกล (Telephoto Lens)ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง F/2.4 รวมไปถึงระบบประมวลภาพและการสร้างโทนสี, อุณหภูมิของภาพในแบบสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Leica ที่ทำให้ภาพที่ได้งดงามจนไม่รู้จะบรรยายยังไงดี รวมไปถึงช่วยให้ภาพสวยงาม สว่างคมชัดแม้ในเวลากลางคืนก็ตาม พร้อมเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด โดยกล้อง 3 ตัวนี้ใช้เลนส์ Leica รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบซูมแบบออพติคัลที่ซูมได้ถึง 3 เท่า และระบบซูมแบบไฮบริดสามารถซูมได้ถึง 5 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/1.7 นิ้ว ที่จะช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ในระดับ ISO 102400 และยังรองรับการสั่นไหวแบบ 6 แกน พร้อมรองรับการถ่ายวีดีโอในโหมด Slow Motion ที่ 960 เฟรมต่อวินาที ได้อย่างละเอียดและคมชัดกว่าระดับมาตรฐาน
มาดูภาพที่ถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว ด้วยเลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8+F/1.6+F/2.4 พร้อมฟีเจอร์ Super Slow Motion 960fps และเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization) (ภาพถ่ายในโหมดปกติไม่ได้ปรับสีใดๆแค่รีไซส์เท่านั้น)
มาพร้อมโหมด Auto, โหมด Pro, โหมดถ่าย Video, โหมด Monochrome ถ่ายภาพขาว – ดำ, โหมด Time-lapse, โหมด Watermark, โหมด 3D Panorama, โหมด HDR เป็นโหมดที่จะช่วยให้ความสว่างในภาพมีความสมดุลมากขึ้น, โหมด Light Painting , โหมด Slow-mo , โหมด Panorama และก็โหมดอื่นๆอีกมากมาย
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดกลางคืน สว่างคมชัด ดีมากจริงๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดกลางคืน ชัดหน้าเบลอหลัง
ตัวอย่างภาพถ่าย ต้นไม้ ดอกไม้ในโหมดชัดหน้าเบลอหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Auto ไม่ได้ตั้งให้ชัดหน้าเบลอหลังนะ แต่ก็ละลายได้อย่างสวยงาม
ตัวอย่างภาพถ่ายอาหารในโหมดชัดหน้าเบลอหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายท้องฟ้า
ถ่ายภาพบุคคลด้วยโหมด 3D Portrait Lighting
ถ่ายภาพบุคคลด้วยโหมด Monochrome
ถ่ายภาพด้วยโหมด Monochrome
ตัวอย่างภาพในการทดสอบการซูม 3x 5x แล้วก็ 10x
ตัวอย่างภาพในการทดสอบการซูม 1x, 3x, 5x แล้วก็ 10x
สามารถนำภาพที่ถ่ายแล้วมาใส่ฟิลเตอร์เพิ่มได้ ตามภาพเลย
ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยโหมดฟิลเตอร์
วีดีโอตัวอย่างในโหมด Slow Motion ที่ 960 เฟรมต่อวินาที ช่วยบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียด
มาที่ภาพถ่ายจากกล้องหน้ากันบ้างความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อม AI Selfie และเทคโนโลยี 3D Portrait Lighting ที่ช่วยให้การเซลฟี่ของเราสวยงามโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติ มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า ตั้งแต่ระดับ 0 จนถึงระดับ 10
ตัวอย่างการเซลฟี่ภาพด้วยกล้องหน้า ระดับ 10
รวมๆคือดีมากกดีไซน์ตัวเครื่องสวยพรีเมียมโดดเด่นด้วยสีไล่ระดับนั้นคือสีทไวไลท์ (Twilight) ไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงหน้าจอไร้ขอบแบบ OLED FullView Display กว้างดูหนังเล่นเกมส์ได้สะใจสีสันก็สวยสดคมชัด ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240×1080 พิกเซล) พร้อมกล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว สุดยอดจริงอะไรจริง ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Super Slow Motion 960fps และเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization) ถ่ายโหมดกลางคืนสวยงามแบบว่าชอบเลยอ่ะ ถ้าพูดถึงฟีเจอร์ในการซูมก็แบบซูม 5 เท่า 10 เท่าก็ยังชัด แบบว่าเอ้ยมันจริงๆนะเธอ และกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI เซลฟี่เนียนสวย เป๊ะ อย่างเป็นธรรมชาติ ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Hisilicon Kirin 970 ประมวลผลได้ไหลลื่นดีเยี่ยม รวมถึงมาพร้อมหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, ลำโพงเสียงคู่แบบ Stereo Spaeker, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, ฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า (Face Unlock), คุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67, แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAhร องรับระบบ SuperCharge บอกเลยว่าอึดจริงๆใช้กันข้ามวันแบตก็ยังไม่หมด เรียกได้ว่าฟีเจอร์การทำงานมาครบครอบคลุมทุกการใช้งานเลย
- ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบใดๆอันเนื่องจาก ข้อผิดพลาดทางการพิมพ์ (ผิด/ตก)
- รายละเอียดต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- กรุณาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สาขาใกล้บ้านท่าน