ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว eSIM (Embedded SIM) ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกและทันสมัยมากกว่าซิมการ์ดแบบดั้งเดิม สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนมาใช้ eSIM แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปดู ขั้นตอนการเปลี่ยนจากซิมปกติเป็น eSIM ด้วยตัวเอง อย่างละเอียด
eSIM คืออะไร?
eSIM หรือ Embedded SIM คือซิมการ์ดที่ฝังอยู่ในตัวเครื่องโดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ดแบบแผ่น ทำให้สามารถเปลี่ยนเครือข่าย หรือใช้หลายเบอร์ในเครื่องเดียวได้อย่างสะดวก (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และเครือข่ายที่รองรับ)
ข้อดีของการใช้ eSIM
- ไม่ต้องพกหรือเปลี่ยนซิมการ์ด
- ใช้หลายเบอร์ในเครื่องเดียวได้
- เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องเปลี่ยนเบอร์ในแต่ละประเทศ
- ลดโอกาสซิมหายหรือเสียหาย
- สลับเบอร์หรือเครือข่ายได้ง่ายและรวดเร็ว
ขั้นตอนการเปลี่ยนซิมการ์ดเป็น eSIM
ตรวจสอบก่อนว่าโทรศัพท์ของคุณรองรับ eSIM เช่น iPhone XS ขึ้นไป, Samsung Galaxy S21 ขึ้นไป, Google Pixel, Huawei Mate 40 ฯลฯ
1. ตรวจสอบว่าเครื่องรองรับ eSIM หรือไม่
ไปที่ Settings > Cellular (หรือ Mobile Data)
หากมีตัวเลือก Add eSIM หรือ Add Cellular Plan แสดงว่าเครื่องคุณรองรับ
2. ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณ
เครือข่าย AIS
- สามารถทำผ่านแอป myAIS หรือไปที่ศูนย์บริการ
- เลือกเมนู ขอเปลี่ยนจากซิมธรรมดาเป็น eSIM
- รับ QR Code เพื่อเปิดใช้งาน eSIM
เครือข่าย TrueMove H
- ใช้งานผ่านแอป True iService หรือที่ศูนย์บริการ
- รับ QR Code และสแกนเพื่อเปิดใช้งาน
เครือข่าย DTAC
- ทำผ่านแอป dtac app หรือไปยังศูนย์บริการ
- ยืนยันตัวตนแล้วรับ QR Code สำหรับ eSIM
3. สแกน QR Code เพื่อเปิดใช้งาน eSIM
- ไปที่ Settings > Cellular > Add eSIM
- เลือก “Use QR Code”
- สแกน QR Code ที่ได้จากผู้ให้บริการ
- ทำตามคำแนะนำที่แสดงบนหน้าจอ
4. ตั้งค่าการใช้งาน eSIM
- ตั้งชื่อสำหรับ eSIM เช่น “เบอร์ส่วนตัว” หรือ “เบอร์ทำงาน”
- เลือกว่าจะใช้เบอร์ไหนเป็นเบอร์หลักสำหรับโทรศัพท์, อินเทอร์เน็ต และข้อความ
- เปิดหรือปิดการใช้งานเบอร์ใดเบอร์หนึ่งได้ตลอดเวลา
สรุป
การเปลี่ยนมาใช้ eSIM นั้นง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่ตรวจสอบว่าเครื่องรองรับ และติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอ QR Code ก็สามารถใช้งานได้ทันที สำหรับใครที่มองหาความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัย eSIM คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!